“วัสดุสร้างบ้านยุคใหม่” เรื่องต้องรู้ ก่อนตัดสินใจใช้บริการรับสร้างบ้าน!

ในยุคนี้ เทรนด์ของการ ”สร้างบ้าน” กลายเป็นหนึ่งในคำค้นหายอดนิยมบน Google Search ที่แสดงให้เห็นถึงความนิยมและความต้องการของผู้ที่ฝันอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง แน่นอนว่าหนึ่งในปัญหาคลาสสิกที่ชวนปวดหัวให้กับผู้ที่คิดอยากสร้างบ้าน ก็คงหนีไม่พ้นการมองหาวัสดุสร้างบ้านที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการให้กับบ้านในฝันได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นในด้านความปลอดภัย ความแข็งแรง ทนทาน ความสวยงาม รวมไปถึงเทรนด์ Eco – Friendly ที่กลายมาเป็นกระแสนิยมในปัจจุบัน

หลายต่อหลายครั้งที่เรามักคิดว่า วัสดุพื้นฐานสำหรับการก่อสร้างและตกแต่งอาคารจะต้องจำกัดการเลือกใช้เพียงแค่ อิฐบล็อก หรืออิฐมอญทั่วไป ที่ผลิตจากดินเหนียว ทราย แกลบและน้ำเท่านั้น แต่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทั่วโลกมีการพัฒนาวัสดุสร้างบ้านยุคใหม่ ที่เป็นนวัตกรรมในการเปลี่ยนวิธีการสร้างบ้านยุคใหม่ให้ง่ายต่อกระบวนการก่อสร้างและได้คุณภาพของบ้านที่มีประสิทธิภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น

ดังนั้น วันนี้ SC Grand บริษัทรับสร้างบ้านหรูอัจฉริยะ จะพาทุกคนมารู้จัก “วัสดุสร้างบ้านยุคใหม่” ที่ได้ลิสต์มาแล้วว่าสามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมการก่อสร้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งตอบโจทย์ความปลอดภัยต่อสุขภาพของคนในครอบครัวได้อีกด้วย ถ้าพร้อมแล้ว มาดูกันเลย

SC Grand พามาดูวัสดุสร้างบ้านยุคใหม่

1. อิฐจากก้นบุหรี่

จากงานวิจัยในปี 2020 ของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย RMIT พบว่า บุหรี่กว่า 6 ล้านล้านตัว ถูกผลิตขึ้นจากทั่วโลกในทุกปี ทำให้ในแต่ละวันเกิดขยะจากก้นบุหรี่มากกว่า 100 ล้านชิ้น ส่งผลให้เกิดการตกค้างและปล่อยสารเคมีลงไปในแหล่งน้ำ ทำให้น้ำปนเปื้อนได้มากกว่าล้านตัน นักวิจัยในสถาบัน RMIT อย่าง Assoc Prof. Abbas Mohajerani ได้สร้างงานวิจัยในโปรเจกต์ “อิฐจากก้นบุหรี่ (Ciggarette Butts)” ขึ้นมา โดยนำก้นบุหรี่ใช้แล้วไปผลิตเป็นอิฐดินเผา ซึ่งพบว่าส่วนประกอบเพียง 1% ของก้นบุหรี่ก็สามารถทำให้อิฐดินเผาแข็งแรงเทียบเท่ากับอิฐทั่วไปได้ นอกจากนี้ ยังใช้พลังงานน้อยกว่าในการผลิตได้มากกว่า 30 ชั่วโมง

(ขอบคุณภาพประกอบจาก phys.org)

เรียกได้ว่านอกจากการรีไซเคิลก้นบุหรี่ที่ตอบรับกับเทรนด์รักษ์โลกแล้ว ยังเป็นการประหยัดเวลาและต้นทุนในการสร้างบ้านอีกด้วย ถือว่าเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่เปลี่ยนโลกการสร้างบ้านได้อย่างยั่งยืน

2. 3D-printed Bioplastics

(ขอบคุณภาพประกอบจาก www.theguardian.com)

ในปัจจุบันเริ่มมีการนำสิ่งที่เรียกว่า เทคโนโลยีเครื่องพิมพ์ 3 มิติ หรือ 3D Printing เข้ามาใช้งานในกระบวนการขึ้นรูปแทนที่กระบวนการผลิตแบบดั้งเดิมอย่างการ ตัด กลึง ไส เจาะ หรือเจียระไน โดยกระบวนการพิมพ์ 3 มิตินี้ จะสามารถขึ้นรูปชิ้นงานต่างๆ จากวัสดุได้หลากหลายประเภท ตั้งแต่ พลาสติก โลหะ เซรามิค และผลิตชิ้นงานได้ตั้งแต่ของใช้ขนาดเล็กเท่าฝ่ามือไปจนถึงการสร้างบ้านทั้งหลัง

ในปัจจุบัน มีบ้านหลังหนึ่ง ใน Eindhoven ประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่มีการใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติ ในการขึ้นรูปผนังรับน้ำหนักของตัวบ้าน และเป็นบ้านหลังแรกที่ถูกต้องตามกฎหมายแห่งแรกในสหภาพยุโรป โดยกระบวนการสร้างบ้านจะแตกต่างไปจากวิธีการดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแรง การกันเสียงรบกวน รวมถึงรูปทรงที่ไม่ต้องใช้กระบวนการหล่อ ทำให้กระบวนการก่อสร้างดำเนินการได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านการออกแบบดิจิทัลแบบไม่ต้องใช้คนงานก่อสร้าง ส่งผลให้เกิดการผลิตจำนวนมากในระยะเวลาที่รวดเร็ว ในอนาคตเราอาจจะได้เห็นนวัตกรรมเหล่านี้ต่อยอดมาเป็นเทคโนโลยีที่สามารถใช้งานได้อย่างแพร่หลายมากขึ้น

3. สตีลไฟเบอร์

สตีลไฟเบอร์ (Steel Fiber) หรือที่นิยมเรียกกันว่า “ใยเหล็กเสริมคอนกรีต” เป็นหนึ่งในวัสดุสร้างบ้านยุคใหม่ที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบัน เนื่องจากสตีลไฟเบอร์เป็นวัสดุที่ช่วยยกระดับการก่อสร้างให้มีประสิทธิภาพและประหยัดเวลามากขึ้น โดยทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมรอยร้าวต่างๆ ไม่ให้แตก เพิ่มประสิทธิภาพความแข็งแรงของคอนกรีต ทำให้นิยมใช้ในงานฐานรากตัวอาคารต่างๆ การเทพื้นคอนกรีต หรือการผสมกับคอนกรีตเพื่อเพิ่มความแข็งแรง และสามารถประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย เป็นต้น

4. Biowood

เวลาที่ปรึกษาบริษัทรับสร้างบ้านทั่วไป ส่วนใหญ่แล้วก็จะได้รับคำแนะนำวัสดุการสร้างบ้านแบบธรรมดาทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น อิฐ ไม้ แต่ในโลกในปี 2023 มีนวัตกรรมใหม่ที่เรียกว่า Biowood ที่สามารถตอบสนองเทรนด์ Green Product ได้อย่างลงตัว ด้วยคุณสมบัติพิเศษที่ผลิตขึ้นจากไม้ของป่าปลูกและพีวีซี รูปลักษณ์ภายนอกเสมือนไม้จริงที่คงลวดลายความเป็นไม้ธรรมชาติดั้งเดิม และมีความคงทน กันแมลงได้ทุกประเภท ไม่ลามไฟ ปราศจากสารเคมีเป็นพิษ ไม่ผุกร่อนง่าย อีกทั้งทนทานต่อทุกสภาวะอากาศ และสะดวกสบายต่อการติดตั้ง พูดง่ายๆ ว่าเป็นวัสดุที่เข้ามาลบจุดด้อยของการใช้ไม้จริงในการสร้างบ้านได้เป็นอย่างดี

5. โฟมโลหะ

โฟมโลหะเป็นวัสดุที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้งานได้ในหลากหลายอุตสาหกรรม จะใช้ในโครงสร้างที่ต้องรับแรงกระแทก ใช้เป็นวัสดุดูดซับเสียง หรือนำไปเป็นฉนวนกันความร้อน ก็สามารถตอบโจทย์ได้ดี แต่ด้วยราคาที่สูง จึงเป็นเรื่องยากที่จะเข้าถึงกลุ่มคนทั่วไปที่อยากสร้างบ้านในปัจจุบัน

ปัจจุบันโฟมโลหะ (Metal Foam/Metallic Foam) เป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่ถูกพัฒนาให้สามารถใช้งานได้อย่างแพร่หลายมากขึ้นผ่าน บริษัทไทเซ โคเกียว (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมกับเอ็มเทค สวทช. ที่เป็นการวิจัย “การพัฒนากระบวนการผลิตโฟมไทเทเนียมบริสุทธิ์แบบเซลล์เปิด” โดยมีการจดสิทธิบัตรและจัดจำหน่ายในเชิงพาณิชย์แล้ว ซึ่งจากผลของงานวิจัยนี้สามารถยกระดับการผลิตโฟมอะลูมิเนียมจากน้ำโลหะ ทำให้สามารถลดต้นทุนในการผลิตโฟมโลหะได้มากยิ่งขึ้น ส่งผลให้ในอนาคตอาจได้เห็นการใช้โฟมโลหะในอุตสาหกรรมต่างๆ อย่างแพร่หลาย

6. อิฐดูดซับมลพิษ

อิฐดูดซับมลพิษ หรือ Breath Brick ที่เป็นการคิดค้นและพัฒนา โดย Asst. Prof. Carmen Trudell จากวิทยาลัยสถาปัตยกรรมและการออกแบบเพื่อสิ่งแวดล้อม (Poly San Luis Obispo) อิฐดูดซับมลพิษเป็นวัสดุที่จะถูกนำไปใช้เป็นส่วนประกอบของอาคาร ที่สามารถดูดซับมลภาวะในอากาศและปล่อยออกมาผ่านตัวกรอง ที่มีการติดตั้งระบบดักฝุ่นแบบไซโคลนอยู่ภายใน ทำให้เป็นที่น่าสนใจว่าในปัจจุบันที่ปัญหาฝุ่น PM 2.5 กลายเป็นปัญหาใหญ่ของทุกประเทศทั่วโลก จะสามารถเบาบางลงได้ด้วยวัสดุสร้างบ้านยุคใหม่อย่าง Breath Brick นี้

7. กระเบื้องหลังคาโซลาร์เซลล์

ในปัจจุบัน ความนิยมของการใช้แผงโซลาร์เซลล์ ที่ทำหน้าที่เป็นตัวแปลงพลังงานแสงให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้า ทำให้ Elon Musk ซึ่งเป็น CEO ของบริษัท Tesla ให้ความสนใจและพัฒนาต่อยอดออกมาเป็น Solar Roof ที่มีรูปลักษณ์เป็นกระเบื้องลอนมุงหลังคา แต่มีการฝังระบบโซลาร์เซลล์ลงในกระเบื้องทำให้สามารถใช้แทนกระเบื้องมุงหลังคาทั่วไปได้ พร้อมผลิตไฟฟ้าผ่านพลังงานแสงอาทิตย์ไปในตัว ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานได้มากกว่าการใช้แผงโซลาร์เซลล์ทั่วไปอย่างแน่นอน

จบกับไปแล้วกับวัสดุสร้างบ้านยุคใหม่ ที่น่าสนใจในปัจจุบันที่สามารถนำมาใช้กับบ้านโมเดิร์นได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม ในการปลูกบ้านโมเดิร์นสักหลังหนึ่ง จำเป็นต้องดำเนินงานด้วยบริษัทรับสร้างบ้านโมเดิร์นผู้เชี่ยวชาญ มีประสบการณ์ในการสร้าง และมีน่าเชื่อถือ เพื่อให้บ้านมีความทันสมัย รู้จักการเลือกวัสดุที่ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัย มีโครงสร้างแข็งแรง และสามารถรองรับการใช้งานของเจ้าของบ้านได้อย่างตรงใจ

อยากสร้างบ้านโมเดิร์น ปรึกษา SC GRAND

SC GRAND เป็นบริษัทรับสร้างบ้านครบวงจร เพราะมีทีมสถาปนิกและวิศวกรผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำ มีแบบบ้านโมเดิร์นหลากหลาย ทั้งบ้านโมเดิร์น 2 ชั้น บ้านโมเดิร์น 3 ชั้น บ้านโมเดิร์นหรู เหมาะกับขนาดที่ดินหลากหลาย พร้อมสามารถปรับเปลี่ยนได้ตรงความต้องการ นอกจากนี้เรายังผสานเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิตด้วยการติดตั้งระบบ Intelligent Home ที่เป็นระบบอัจฉริยะอีกด้วย

หากต้องการติดต่อสอบถามเกี่ยวกับการสร้างบ้าน สามารถติดต่อมาได้ทาง

Email: info@scgrand.co.th

ติดต่อสอบถามได้ทางเบอร์โทร: 02-066-6663, 065-575-1555

สำหรับช่องทางออนไลน์สามารถติดตามได้ที่: Facebook, YouTube, LINE OA