รวมแบบบ้าน 2 ชั้น Two-Storey house ดีไซน์สวยหรูหลากหลายสไตล์
Table of contents
- แบบบ้าน 2 ชั้น จากสำนักการโยธา
- แบบบ้าน 2 ชั้น สไตล์โมเดิร์น
- แบบบ้าน 2 ชั้น จาก SC GRAND
- แบบบ้าน 2 ชั้นสไตล์อื่นๆ
- แบบบ้าน 2 ชั้น 3 ห้องนอน
การสร้างบ้านบนที่ดินเปล่า ถือเป็นหนึ่งความท้าทายของเจ้าของที่อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการประสานงานกับผู้รับเหมา วิศวกร สถาปนิก รวมไปถึงการยื่นเรื่องเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ในปัจจุบันแบบบ้าน 2 ชั้น สไตล์โมเดิร์น ได้รับความนิยมอย่างมาก ฉะนั้นจึงมีรูปแบบบ้าน 2 ชั้นมากมายให้เลือกใช้ เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในการออกแบบ และช่วยวางงบประมาณก่อสร้างได้แม่นยำมากขึ้น
โดยในวันนี้ SC GRAND จะมาแนะนำ แบบบ้าน 2 ชั้นรูปแบบต่างๆ จากสำนักการโยธา พร้อมแบบบ้าน 2 ชั้นยอดนิยมของ SC GRAND อีกด้วย จะมีบ้านแบบไหนที่น่าสนใจบ้าง มาดูกันเลย!
แบบบ้าน 2 ชั้น จากสำนักการโยธา
สำนักการโยธาได้ทำการออกแบบบ้านสไตล์ต่างๆ อยู่เสมอ เพื่อมอบให้ประชาชนได้นำไปใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นแบบบ้านประหยัด แบบบ้านผู้ประสบภัย แบบบ้านครอบครัวไทยร่วมสมัย รวมไปถึงแบบบ้าน 2 ชั้น ที่ดูเก๋ ดูโมเดิร์นที่เราจะมาทำความรู้จักกันในวันนี้ ได้แก่
1. แบบบ้าน 2 ชั้น “ตะแบกใหญ่”
เริ่มต้นอันดับแรกด้วยแบบบ้าน 2 ชั้น 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ โดยเป็นแบบบ้านโมเดิร์น ที่มอบพื้นที่ใช้สอยประมาณ 72 ตร.ม. จึงเหมาะกับผู้ที่อยู่อาศัย 1-2 คน และต้องการความเป็นส่วนตัวสูง
โดยมีพื้นที่ใช้สอยของที่อยู่อาศัยที่ชั้น 2 ส่วนชั้นล่างที่เป็นใต้ถุนบ้าน สามารถใช้จอดรถยนต์ได้ หรือทำเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ต่างๆ ได้อย่างสะดวก ซึ่งมีราคาประเมินก่อสร้างเริ่มต้นที่ประมาณ 6.2 แสนบาทเท่านั้น
2. แบบบ้าน 2 ชั้น “ทิพเกสร”
แบบบ้านนี้อาจมีดีไซน์ที่ดูแปลกตาไปบ้าง เนื่องจากเป็นการออกแบบโมเดิร์นที่นำเอารูปทรงเรขาคณิตมาออกแบบภายนอกบ้าน จึงออกมาเป็นบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยแนวลึก รวมทั้งหมดประมาณ 112.5 ตร.ม. ประกอบไปด้วย 2 ห้องนอน และ 2 ห้องน้ำ
โดยโซนชั้น 1 มีห้องนั่งเล่น ห้องนอน ห้องน้ำ และพื้นที่ซักล้าง ส่วนชั้น 2 จะเป็นพื้นที่ห้องนอนขนาดใหญ่ และมีห้องน้ำในตัว อีกทั้งมีระเบียงขนาดใหญ่ให้ชมวิว หรือตกแต่งได้ตามความต้องการ ส่วนใครที่ต้องการจอดรถ อาจต้องจอดในพื้นที่ข้างบ้าน ไม่สามารถจอดหน้าบ้านได้ เพราะมีเฉลียงขนาดกว้าง สามารถออกแบบเป็นพื้นที่พักผ่อนได้อย่างดี ซึ่งแบบบ้านทิพเกสร มีราคาก่อสร้างเริ่มต้นที่ 9 แสนบาทไปจนถึง 1 ล้านบาท โดยประมาณ
3. แบบบ้าน 2 ชั้น “ตรียัมปวาย”
แบบบ้าน 2 ชั้น ขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่มีการออกแบบภายนอกเป็นทรงเหลี่ยม แสดงถึงความโมเดิร์นอย่างเต็ม พร้อมให้พื้นที่ใช้สอยราว 152 ตร.ม. เหมาะสำหรับอยู่อาศัยเป็นครอบครัวขนาดเล็ก และผู้ที่มีที่ดินหน้าแคบแต่มีพื้นที่แนวลึกพอประมาณ
ในการแบ่งสัดส่วนพื้นที่ใช้สอย บ้านตรียัมปวายนี้มีการจัดพื้นที่ชั้นล่างให้เป็นห้องนั่งเล่น ห้องอาหาร และห้องครัว ส่วนชั้น 2 นั้นประกอบไปด้วยห้องนอนใหญ่ที่มีห้องน้ำในตัว และห้องนอนเล็ก 2 ห้อง พูดได้ว่าให้ความเป็นส่วนตัวได้เป็นอย่างดี ซึ่งแบบบ้าน 2 ชั้นนี้ มีราคาประเมินก่อสร้างอยู่ราว 1.2 ล้านบาท
ทั้ง 3 แบบบ้าน 2 ชั้นนี้ก็เป็นแบบสำเร็จรูปที่เจ้าของที่ดินสามารถนำไปเสนอให้กับบริษัทรับสร้างบ้าน ได้ทันที และสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ แต่ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะยังมีแบบบ้าน 2 ชั้นสุดโมเดิร์นจาก SC GRAND ให้เลือกสรรอีกมากมาย
แบบบ้าน 2 ชั้น สไตล์โมเดิร์น
บ้านโมเดิร์น 2 ชั้น บ้านที่ใครๆ ก็ฝันอยากจะมี ด้วยรูปทรงที่สวยงาม ดูทันสมัยตลอดเวลา ดูแลรักษาง่าย พร้อมมีพื้นที่ใช้สอยได้อย่างคุ้มค่า ซึ่งด้วยเหตุผลที่กล่าวไป อาจทำให้ผู้อ่านบางส่วนสนใจอยากจะมีบ้านโมเดิร์น 2 ชั้นแล้ว แต่รู้หรือไม่ว่านอกจากบ้านโมเดิร์นที่เราคุ้นเคยในประเทศไทย ยังมีบ้านโมเดิร์นรูปแบบอื่นๆ อีกที่เป็นแบบบ้านที่ได้รับความนิยมจากตะวันตก ดังนั้น SC GRAND ขอพาทุกคนมาดู 5 แบบบ้าน 2 ชั้น สไตล์โมเดิร์นที่โดดเด่นและแตกต่าง เพิ่มความแปลกใหม่ให้กับบ้านของเรากัน
บ้านโมเดิร์น คืออะไร?
บ้านสไตล์โมเดิร์นเป็นแบบบ้านที่ได้รับอิทธิพลมาจากยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม (Industrial Revolution) ที่ผู้คนเริ่มหันมาให้ความสำคัญในการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า มีการลดองค์ประกอบหรือการตกแต่งที่ไม่มีความจำเป็นในการก่อสร้างออก และลดความฟุ่มเฟือยของวัสดุออกไป จนเหลือลักษณะโครงสร้างบ้านที่มีรูปทรงเรขาคณิต อธิบายได้ง่ายๆ ว่าบ้านโมเดิร์นจะเน้นความเรียบง่าย ตกแต่งน้อย เน้นการเลือกใช้พื้นผิวที่มีความเป็นธรรมชาติ และการออกแบบที่คำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยมากกว่าความสวยงาม แบบบ้านโมเดิร์นจึงได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน เนื่องจากมีข้อดีคือ ค่าใช้จ่ายที่น้อยในการก่อสร้างที่น้อยกว่า เพราะมีการลดทอนการตกแต่ง โครงสร้างบ้านไม่ซับซ้อน ช่วยให้มีพื้นที่ใช้สอยมากและมีความโปร่งโล่ง รวมถึงการดูแลบ้านโมเดิร์นยังดูแลได้ง่ายกว่า และบ้านโมเดิร์นยังเป็นรูปแบบบ้านที่ดูทันสมัยตลอดเวลา
จากข้อดีเหล่านี้ ทำให้หลายครอบครัวตัดสินใจที่อยากจะซื้อหรือปลูกบ้านสไตล์โมเดิร์น ซึ่งคำว่า “โมเดิร์น” ที่ว่านั้นเป็นคำกว้างๆ เพื่ออธิบายลักษณะบ้านที่รูปแบบใหม่หรือทันสมัยเป็นจุดร่วม เพราะบ้านโมเดิร์นนั้นยังมีหลากหลายสไตล์ด้วย ดังนั้น SC GRAND จะขอพาทุกคนมาแนะนำ 5 แบบบ้าน 2 ชั้น สไตล์โมเดิร์นที่มีความแตกต่างและโดดเด่นแบบเฉพาะตัวกันแนะนำแบบบ้าน 2 ชั้น สไตล์โมเดิร์น
ลักษณะองค์ประกอบหลักของบ้านโมเดิร์น 2 ชั้น
ก่อนที่จะดูแบบบ้านโมเดิร์นใหม่ๆ ขออธิบายลักษณะองค์ประกอบหลักของบ้านโมเดิร์น 2 ชั้นก่อน โดยทั่วไปเมื่อกล่าวถึงบ้านโมเดิร์น หลายๆ คนมักจะนึกถึงบ้านที่มีลักษณะดังนี้
-
- ทรงเรขาคณิต: โดยส่วนมากบ้านโมเดิร์น 2 ชั้นจะมีลักษณะทรงเรขาคณิตแบบเรียบๆ อย่างสี่เหลี่ยมหรือสามเหลี่ยม ไม่มีองค์ประกอบอื่นๆ มาประดับเหมือนกับแบบบ้านอื่นๆ ที่อาจเพิ่มรายละเอียด Facade ให้โดดเด่น เพราะบ้านโมเดิร์นจะเน้นไปที่ความเรียบง่าย แต่ก็เพิ่มความโดดเด่นด้วยการเพิ่มมุมพิเศษ การออกแบบลดหลั่นระหว่างตัวบ้านกับระเบียง การเล่นโทนสีเพื่อเพิ่มมิติให้บ้านมีลูกเล่นอื่นๆ
-
- เน้นแสงธรรมชาติ: เพราะบ้านโมเดิร์นเป็นบ้านที่ออกแบบโดยคำนึงถึงประโยชน์เป็นหลัก ซึ่งการออกแบบประตูหน้าต่างของบ้านแบบนี้จะช่วยเพิ่มแสงสว่างและลมเข้ามาภายในตัวบ้าน นอกจากจะช่วยให้บ้านโล่ง โปร่งสว่างแล้ว ยังสามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและช่วยรักษ์โลกได้ยิ่งขึ้น
-
- สีโทนธรรมชาติ: หลายคนมักเข้าใจว่าบ้านโมเดิร์นคือบ้านที่ต้องมีสีขาวเป็นหลัก ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว บ้านโมเดิร์นสามารถมีสีสันที่โดดเด่นและหลากหลายได้เช่นกัน โดยส่วนมากแล้วมักเน้นไปโทนสีธรรมชาติหรือ Earth Tone ไม่ฉูดฉาดจนเกินไป รวมถึงการเลือกคู่สีที่เข้าคู่กันก็ช่วยเพิ่มความโดดเด่นได้
-
- เน้นพื้นที่ใช้สอย: ถือเป็นลักษณะองค์ประกอบของบ้านโมเดิร์น 2 ชั้นเลยก็ว่าได้ เพราะการออกแบบบ้านจะต้องคำนึงถึงการใช้ประโยชน์ของพื้นที่สูงสุดมากกว่าความสวยงามหรือการใช้โชว์
แนะนำแบบบ้าน 2 ชั้นสไตล์โมเดิร์น
รวมแบบบ้าน 2 ชั้น สไตล์โมเดิร์น แจกแบบบ้านโมเดิร์นฟรี
1. Farmhouse
บ้านโมเดิร์น 2 ชั้นรูปแบบนี้เป็นแบบบ้านที่ดัดแปลงมาจากบ้านไร่บ้านส่วนของประเทศตะวันตก หน้าบ้านจะมีลักษณะเป็นสามเหลี่ยมทรงจั่ว มองแล้วจะให้ความรู้สึกของความอบอุ่น โดยบ้านสวนโมเดิร์นจะลดทอนรายละเอียดบ้านสวนเดิมลง เพิ่มความเรียบง่ายมากขึ้นผ่านการใช้โทนสีสว่างอย่างสีขาว อาจมีการใช้สีโทนเข้มตัดเพื่อเพิ่มมิติ และมักเป็นบ้านทรงสูงขึ้นจากปกติ เพื่อเพิ่มความโปร่งโล่งอันเป็นเอกลักษณ์ของบ้านโมเดิร์น
2. Craftsman
บ้านแบบ Craftsman หรือบ้านสไตล์ช่างฝีมือ มักจะมีเอกลักษณ์โดดเด่นคือ มีเส้นและลวดลายที่สะอาดนำสายตา พร้อมมีเสาหนาเรียวเล็ก เฉลียงหน้าบ้านขนาดใหญ่มีหลังคา และหลังคาทรงจั่วทรงต่ำ มาในโทนสีเข้ม ซึ่งบ้านโมเดิร์น Craftsman จะมีการปรับให้ภายนอกดูเรียบง่ายขึ้นแต่คงรูปแบบบ้านสไตล์ช่างไว้ ภายในบ้านจะไม่มีการแบ่งโซนกั้นห้องต่างๆ ฝ้าเพดานสูง ใช้โทนสีสว่าง ทำให้ภายในดูโปร่ง โล่ง สบายอย่างมาก พร้อมนำเสนอความประณีตฝีมือช่างได้อย่างลงตัว
3. International Style
อาคารบ้านโมเดิร์น 2 ชั้นที่หลายคนชื่นชอบ โดยได้พัฒนารูปแบบสถาปัตยกรรมหลักจากยุคโมเดิร์นช่วงปี ค.ศ. 1920-1930 โดยจะมีรูปทรงเน้นสี่เหลี่ยมผืนผ้า หลังคาเรียบ พื้นผิวเรียบ มีมุมโค้งมน หน้าตากว้างดึงแสงภายนอกเข้ามา มองภายนอกจะเป็นเหมือนกล่องสี่เหลี่ยมสีขาว
4. Mid – Century Modern
แบบบ้านโมเดิร์นที่ได้รับอิทธิพลมาจากเฟอร์นิเจอร์ เน้นความเรียบง่าย สามารถใช้งานพื้นที่ใช้สอยได้จริง มีรูปทรงเรขาคณิตและเพิ่มส่วนโค้งมนในการออกแบบรายละเอียดต่างๆ ถึงแม้จะมีความโมเดิร์นมาก แต่บ้านลักษณะนี้จะมีการใช้โทนสีอุ่นเพื่อช่วยส่งเสริมให้เฟอร์นิเจอร์ Mid – Century โดดเด่นขึ้น โดยใช้สีขาวเป็นสียืนพื้นและตัดด้วยกรอบสีไม้
5. Futuristic
บ้านโมเดิร์นที่ได้รับอิทธิพลมาจากแนวความคิดอาวองการ์ด (Avant-Garde) ที่เน้นความคิดแบบล้ำอนาคต ฉีกกฎเกณฑ์เดิม โดยการนำลักษณะเด่นของบ้านโมเดิร์นที่เน้นสีขาว การตกแต่งที่เรียบง่าย แต่นำเสนอความแปลกใหม่ผ่านรูปทรงโค้งมนหรือเหลี่ยมที่แปลกตา เพื่อแสดงถึงความเคลื่อนไหว วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี
6. โมเดิร์นลอฟท์ (Modern Loft)
บ้านโมเดิร์นสไตล์ลอฟท์เป็นแบบบ้านที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ด้วยการนำเสนอความดิบของพื้นทั้งการโชว์ท่อไฟหรือท่อน้ำ การใช้ผนังและพื้นแบบปูนเปลือยทำให้บรรยากาศภายในบ้านดูมีเอกลักษณ์แบบเท่ๆ ดิบๆ ลดความจำเจของบ้านโมเดิร์นเดิมแต่ก็คงเสน่ห์ด้วยการตกแต่งที่เรียบง่ายของวัสดุในสไตล์ง Indrustial Material อย่างการเลือกใช้เหล็กกล้าหรืออิฐ โทนสีภายในบ้านจะมีสีดำ เทา และขาวเป็นองค์ประกอบหลัก และไม่มีการปกปิดพื้นผิวของวัสดุ
7. โมเดิร์นทรอปิคอล (Modern Tropical)
บ้านโมเดิร์น 2 ชั้นสไตล์ทรอปิคอลเป็นแบบบ้านโมเดิร์นที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามเทรนด์คนรุ่นใหม่ที่รักธรรมชาติ แบบบ้านทรงนี้จึงออกแบบให้เข้ากับธรรมชาติและภูมิอากาศร้อนชื้นอย่างไทย เลือกใช้สีเอิร์ธโทนเป็นหลัก ใช้วัสดุที่เรียบง่ายจากธรรมชาติอย่างไม้ไผ่ ศิลาแลง อิฐช่องลม หรือคอนกรีต เน้นพื้นที่โปร่งโล่ง ให้อากาศถ่ายเทภายในบ้าน และมีพื้นที่สวนไว้เอาใจสายรักธรรมชาติ มอบความร่มรื่นให้ทุกคนได้ใกล้ชิดพื้นที่สีเขียว
8. โมเดิร์นนอร์ดิก (Modern Nordic)
แบบบ้าน 2 ชั้น สไตล์โมเดิร์นสไตล์นอร์ดิกเป็นแบบบ้านที่ถูกพูดถึงอย่างมากในเวลานี้ ด้วยความเรียบง่าย ชวนผ่อนคลาย เน้นการนำแสงจากภายนอกมาสู่ภายในพื้นที่ มีการใช้เส้นสายเพื่อดึงดูดสายตา โดยลักษณะที่โดดเด่นคือทรงหน้าจั่วสูงคล้ายกับโรงนาในยุโรป ทำให้บ้านดูโปร่งยิ่งขึ้นด้วยการมีกระจกบานใหญ่รอบบ้าน ถึงแม้จะเป็นแบบบ้านทรงยุโรปเหนือที่มีภูมิอากาศหนาว แต่บ้านโมเดิร์น 2 ชั้นสไตล์นอร์ดิกยังเหมาะกับอากาศเมืองไทย เพราะความลาดเอียงของหลังคาช่วยให้น้ำฝนไหลลงด้านล่างได้อย่างมีประสิทธิภาพ และหลังคาทรงสูงช่วยให้อากาศร้อนลอยตัวได้ดี ทำให้บ้านเย็นสบายตลอดเวลา
9. โมเดิร์นคอนเทมโพรารี่ (Modern Contemporary)
บ้านโมเดิร์นที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย โดยจะตกแต่งแบบร่วมสมัย ปรับสไตล์ให้เข้ากับยุคนี้ เน้นความเรียบง่ายเป็นพื้นฐานหลักแต่ยังคงความหรูหราไว้ อีกทั้งยังก่อสร้างได้ง่ายด้วยดีไซน์และวัสดุใหม่ๆ และจุดเด่นคือ การนำเส้นโค้งมนมาใช้ในองค์ประกอบมากกว่าบ้านทรงโมเดิร์นที่เน้นความเป็นเรขาคณิต จึงช่วยให้เกิดความนุ่มนวลกว่าเดิม
10. โมเดิร์นลักชูรี่ (Modern Luxury)
อีกหนึ่งรูปแบบของความหรูหราที่เน้นไปที่ความเรียบง่าย แต่คงความเรียบหรู ด้วยการเลือกใช้วัสดุระดับพรีเมียมอย่างพื้นหินอ่อน เฟอร์นิเจอร์บุหนัง กระจก ตัดขอบทองเพิ่มความหรูหรา การตกแต่งที่เน้นความโปร่งโล่ง และใส่ใจทุกรายละเอียดในทุกพื้นที่ของบ้าน โดยจะมีการคุมโทนสีที่ช่วยให้บรรยากาศของบ้านอบอุ่นด้วยโทนสีกลางๆ ไม่เน้นสีสันจัดจ้าน ตลอดจนการนำเทคโนโลยีเข้ามาผสานเพื่อให้เป็น Smart Home อีกด้วย
11. MODERN CLASSIC HOUSE
ถ้าพูดถึงบ้านโมเดิร์น 2 ชั้น หนึ่งในสไตล์ยอดนิยมก็คงหนีไม่พ้นบ้านสไตล์โมเดิร์น คลาสสิก (Modern Classic House) ที่โดดเด่นด้วยการเลือกใช้โทนสี 5 สีหลัก คือ สีขาว สีเทา สีน้ำเงิน สีน้ำตาล และสีดำ โดยสีขาวเป็นสีที่คลาสสิกที่สุดสำหรับบ้านสไตล์โมเดิร์น ให้ความรู้สึกเรียบง่ายแต่ยังเต็มไปด้วยความรู้สึกน่าค้นหา ส่วนสีเทาเป็นสีที่แสดงออกถึงความหรูหรามีระดับ สีน้ำเงินและสีดำเป็นสีที่สามารถยกระดับบ้านให้ดูภูมิฐานขึ้นไปอีกขั้น ในขณะที่สีน้ำตาลช่วยสร้างความรู้สึกผ่อนคลายให้กับผู้อยู่อาศัยได้ดี
โดยการตกแต่งภายในของบ้านจะเน้นไปที่ความโปร่ง โล่ง ไม่ใช้ลวดลายอะไรในการตกแต่งจนดูรกมากนัก ในขณะที่การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ก็จะนิยมใช้กลุ่มเฟอร์นิเจอร์วินเทจ ที่สามารถช่วยขับความรู้สึกความเป็นตัวตนและเอกลักษณ์ของผู้อยู่อาศัยได้เป็นอย่างดี
12. MODERN MINIMAL HOUSE
สำหรับบ้านสไตล์โมเดิร์น มินิมอล (Modern Minimal House) ถือเป็นบ้านสไตล์โมเดิร์นที่คนส่วนใหญ่น่าจะคุ้นเคยมากที่สุด บ้านในสไตล์นี้จะโดดเด่นในภาพลักษณ์ของโครงสร้างบ้านทรงเรขาคณิต เน้นความโปร่ง โล่ง ไม่ซับซ้อน แฝงความเรียบง่ายในสไตล์มินิมอลเอาไว้ เรามักจะเห็นบ้านในสไตล์ใช้วัสดุประเภท กระจก คอนกรีต เหล็ก และไม้เป็นส่วนใหญ่ เพื่อเน้นความสวยงามตามธรรมชาติที่เรียบง่ายที่สุด ส่วนโทนสีและเฟอร์นิเจอร์ก็จะเป็นสีพื้นๆ อย่าง สีขาว ครีม หรือสีลายไม้ ที่สำคัญเลยคือการเลือกเฟอร์นิเจอร์ ที่จะต้องมีดีไซน์เก๋ๆ แหวกแนวไม่ซ้ำใคร และต้องมีฟังก์ชันการใช้งานที่ซ่อนเอาไว้เป็นเฟอร์นิเจอร์แบบมัลติฟังก์ชัน
13. MODERN JAPANESE HOUSE
บางคนเวลานึกถึงบ้านสไตล์โมเดิร์น อาจเห็นภาพบ้านญี่ปุ่นเด้งขึ้นมาในหัวอย่างแน่นอน “บ้านหลังเล็กๆ ที่ดูเรียบง่ายและทุกพื้นที่ดูฟังก์ชันสามารถใช้งานได้หมด” ได้กลายเป็นภาพจำของผู้คนส่วนใหญ่ในปัจจุบัน โดยบ้าน Modern Japanese เกิดขึ้นจากการผสมผสานระหว่างความโมเดิร์นในแบบยุโรปคลาสสิกดั้งเดิมกับเอกลักษณ์บ้านญี่ปุ่น ที่นำปรัชญา “โคตาวาริ” (こだわり) หรือการออกแบบอย่างพิถีพิถันของญี่ปุ่นมาปรับใช้ ทำให้บ้านในสไตล์ Modern Japanese ได้รับความใส่ใจในการตกแต่งทุกระเรียบนิ้ว อีกทั้งมีการคำนึงถึงวิถีชีวิตและการอยู่อาศัยของเจ้าของบ้านได้แบบลงตัวที่สุด
เรียกได้ว่า บ้านสไตล์นี้ผสานเอาวิถีชีวิตของผู้คนมาร้อยเรียงให้เข้ากับสถาปัตยกรรมอย่างเรียบง่ายและลงตัวที่สุด อาจจะดูเป็นสไตล์บ้านที่ลึกซึ้งไปสักเล็กน้อย แต่สำหรับใครที่ชอบวิถีชีวิตที่สงบ เรียบง่าย ชอบซึมซับบรรยากาศ แสงแดดจากธรรมชาติ บ้านในสไตล์ Modern Japanese ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจทีเดียว
14. MODERN CONTEMPORARY HOUSE
บ้านสไตล์ Modern Contemporary เป็นอีกหนึ่งการออกแบบตกแต่งบ้านที่ได้รับความนิยม เพราะเป็นการผสานความทันสมัย (Modern) ให้เข้ากับความร่วมสมัย (Contemporary) นำเอาความเรียบง่ายมำปรับให้ร่วมสมัยมากขึ้น ผ่านการตกแต่งด้วยรายละเอียดต่างๆ เช่น งานศิลปะที่แสดงให้เห็นถึงตัวตนของผู้อยู่อาศัย หรือของตกแต่งท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร เป็นต้น
15. INDUSTRIAL CONTEMPORARY HOME
ใครมีความคิดที่อยากได้บ้านโมเดิร์นที่มีความ “ดิบ” ดูเท่มากขึ้น ต้องเลือกบ้านสไตล์ Industrial Contemporary ที่เป็นการออกแบบโดยหยิบเอาเสน่ห์ในความเป็นโรงงานมาใช้ออกแบบบ้าน ด้วยบรรยากาศแบบโรงงานจะช่วยสร้างความแปลกตา พร้อมกับการเลือกวัสดุที่ใช้แบบตามรูปทรงธรรมชาติ ซึ่งส่วนใหญ่อาจเป็นปูนเปลือยและเหล็กดัดที่ไม่ผ่านการดัดแปลงมากมายนัก เมื่อนำมาประกอบเข้ากับบ้านโครงสร้างบ้านแบบโมเดิร์นแล้ว ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความเรียบง่ายแต่ทันสมัยได้ลงตัว
16. MODERN BARN HOUSE
บ้าน Modern Barn เป็นหนึ่งบ้านสไตล์คันทรียอดนิยมในปัจจุบัน ด้วยความที่เป็นสไตล์ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคนที่มีพื้นที่ไร่นา ชายทุ่ง ให้อารมณ์สโลว์ไลฟ์และความผ่อนคลาย แต่ก็สามารถสรา้งความทันสมัยให้กับบ้านมากขึ้น ใครที่ยังนึกภาพไม่ออก ก็ลองนึกภาพร้านกาแฟหรือร้านอาหารสวยๆ ตามสถานที่ท่องเที่ยวโซนพักตากอากาศ เช่น เขาใหญ่ ตาก หรือลำปาง เป็นต้น
17. ULTRA MODERN BACKYARD HOUSE
บ้าน Ultra Modern Backyard มีดีไซน์ล้ำสมัยที่โดดเด่นด้วยการออกแบบที่ทันสมัยและเรียบง่าย นิยมเลือกใช้วัสดุที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เช่น แก้วและเหล็ก ส่วนใหญ่แล้วมักจะมีพื้นที่เปิดโล่งที่มีแสงธรรมชาติเพียงพอ และให้ความสำคัญกับเส้นสายที่สะอาดตา มีการเลือกใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะรองรับความต้องการของคนในบ้าน เน้นที่ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน และมักจะผสมผสานพื้นที่การใช้งานระหว่างพื้นที่ในร่มและกลางแจ้ง ซึ่งฟังก์ชันการทำงานของพื้นที่ในบ้าน เรียกว่าเป็นการเอาองค์ประกอบทางศิลปะอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวบ้าน ขณะเดียวกันก็เปิดรับความสมัยใหม่ด้วยการนำเทคโนโลยีอัจฉริยะเข้ามาใช้งาน
18. MODERN TENT HOUSE
ใครที่เป็นสายแคมป์ปิ้งน่าจะคุ้นเคยกันดีกับ บ้านสไตล์ Modern Tent House ที่ออกแบบมาสำหรับกิจกรรมต่างๆ เช่น การตั้งแคมป์ โดยผสมผสานองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมสมัยใหม่เข้ากับวัสดุที่ให้ความรู้สึกทันสมัยเพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย เน้นให้ความสำคัญกับการจัดระเบียบพื้นที่ใช้สอยภายใน พร้อมกับปล่อยให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาอย่างทั่วถึง บ้านในสไตล์นี้สามารถออกแบบและใช้งานได้หลากหลาย เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ บางบ้านอาจเน้นความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ในขณะที่บางบ้านอาจเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกหรูหรา โดยรวมแล้ว บ้านในสไตล์ Modern Tent House เป็นการผสมผสานระหว่างการออกแบบที่ทันสมัยและประโยชน์ใช้สอยเข้ากับกิจกรรมแคมป์ปิ้งนั่นเอง
19. MODERN ART DECO HOUSE
บ้าน Modern Art Deco เป็นแบบบ้านสไตล์โมเดิร์นที่หลายคนอาจจะคุ้นชื่อกันบ้าง แต่อาจจะยังนึกภาพไม่ออกว่าหน้าตาเป็นอย่างไร บ้านในสไตล์ Art Deco นี้เป็นการแต่งบ้านในสไตล์ที่ต้องอาศัยความรู้และเข้าใจของศิลปะ Art Deco เพื่อที่จะได้บ้านที่มีความประณีตและพิถีพิถันในการออกแบบให้สวยงามได้อย่างลงตัว เพราะสถาปัตยกรรมในสไตล์ Art Deco จะมีความเน้นไปที่เส้นสายของตัวบ้าน ในขณะที่เลือกใช้รูปทรงเรขาคณิตอย่างเรียบง่าย เนื่องจากศิลปะในสไตล์ Art Deco ถือเป็นศิลปะยุคแรกเริ่มที่ให้ความสนใจในรูปทรงเรขาคณิตเพื่อออกแบบสถาปัตยกรรม ทำให้ความเรียบง่ายของศิลปะสไตล์นี้เข้ากับการสร้างบ้านสไตล์โมเดิร์นได้อย่างดี ที่สำคัญ คือ การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์จะต้องมีความหรูหรา น่าอยู่ บางบ้านอาจมีการฝังกระจกหรืองานโลหะลงไปในดีเทลต่างๆ ของตัวบ้าน
20. MODERN CUBE HOUSE
บ้านในรูปทรงกล่องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่เรามักเห็นตามในหนังรักโรแมนติก น่าจะโดนใจใครไม่น้อย สำหรับบ้านสไตล์ Modern Cube ที่โดดเด่นไปด้วยการสร้างบ้านในรูปทรงสี่เหลี่ยมทั้งหลัง ผนวกกับเส้นสายเรียบง่ายแต่เปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์ของความทันสมัย ไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแวดล้อมไหนก็ทำให้บ้านดูโดดเด่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งนิยมสำหรับการสร้างบ้านโมเดิร์น 2 ชั้น และมักใช้กระจกใสในการโชว์สัดส่วนภายในบ้านให้เห็นอีกด้วย
ทั้งหมดนี้ก็เป็นไอเดียบ้านโมเดิร์น 2 ชั้น ที่เราได้คัดมาแจกแบบฟรีๆ สำหรับใครที่กำลังมองหาไอเดียบ้าน 2 ชั้น ก็สามารถลองเลือกแบบที่ถูกใจและนำไปปรึกษากับบริษัทรับสร้างบ้านที่น่าเชื่อถือ มีประสบการณ์ จะได้บ้านในฝันที่ตรงใจทั้งดีไซน์การออกแบบและฟังก์ชันการใช้งาน
จบไปแล้วกับ 20 แบบบ้าน 2 ชั้น สไตล์โมเดิร์นซึ่งโดดเด่นและแตกต่างจากบ้านโมเดิร์นที่เราคุ้นเคย ซึ่งสำหรับใครที่กำลังมองหาบริษัทรับสร้างบ้านโมเดิร์นหรือหาแบบบ้านโมเดิร์นหรูหราสำหรับการสร้างบ้าน สามารถใช้บริการกับทาง SC GRAND ได้ เรามีประสบการณ์ในการออกแบบและรับสร้างบ้านโมเดิร์น ปรับภูมิ พร้อมติดตั้งระบบ Intelligent Home ที่เป็นระบบอัจฉริยะ รวมถึงการรับสร้างบ้านหรูอัจฉริยะด้วยมาตรฐานการก่อสร้างที่เป็นหนึ่งในแถวหน้าของบริษัทรับสร้างบ้านชั้นนำอย่างแท้จริง
แบบบ้าน 2 ชั้น จาก SC GRAND หรูหราและโมเดิร์นในทุกรายละเอียด
SC GRAND คือ บริษัทรับสร้างบ้านผู้เชี่ยวชาญ ก่อตั้งโดยกลุ่มผู้บริหารและทีมงานที่มีประสบการณ์มากกว่า 60 ปี ซึ่งเรามีแบบบ้านให้เลือกหลากหลายตามโจทย์การใช้ชีวิตและความต้องการของผู้อยู่อาศัย
โดย SC GRAND มีแบบบ้าน 2 ชั้นยอดนิยม 3 แบบ ดังนี้
1. THE GRAND SERIES
แบบบ้านขนาดใหญ่ที่ออกแบบมาเพื่อให้มีความหรูหราโมเดิร์น และมีความพิถีพิถันในทุกรายละเอียด สร้างเอกลักษณ์ให้กับการอยู่อาศัยด้วยภาพลักษณ์ระเบียงบ้านสุดโอ่อ่า โดยแบบบ้านในซีรีส์นี้มีขนาดพื้นที่ใช้สอยให้เลือกตั้งแต่ 400-918 ตร.ม. มีราคาประเมินก่อสร้างอยู่ที่ระหว่าง 8.74-18.4 ล้านบาท
บรรยากาศภายในบ้านนั้นเน้นความโปร่งสบาย พร้อมแบ่งพื้นที่ใช้สอยอย่างเหมาะสม สามารถแบ่งเป็นห้องนอนได้ตั้งแต่ 6-8 ห้องนอน และ 6-8 ห้องน้ำ ประกอบกับห้องแม่บ้านอีก 1-2 ห้อง อีกทั้งยังออกแบบพื้นที่จอดรถได้กว้างถึง 2-4 คัน
นอกจากนี้ ยังมีเอกลักษณ์โดดเด่นด้วยดีไซน์ “กระจกเข้ามุม” รับวิวธรรมชาติจากภายนอกได้อย่างลงตัว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบ้านเดี่ยวสำหรับอยู่อาศัยแบบครอบครัวขนาดใหญ่ แต่มอบความเป็นส่วนตัวสูงสุดให้กับสมาชิกทุกคนในบ้าน
ดูแบบบ้าน THE GRAND Series เพิ่มเติม คลิก
2. THE GRACE SERIES
มาต่อกันที่แบบบ้านขนาดกลางจาก SC GRAND โดยมีดีไซน์หรูหรา พร้อมมอบความโอ่โถง รู้สึกสบายไม่อึดอัดในทุกมุมของบ้านในสไตล์ Modern Contemporary ดีไซน์ร่วมสมัย แบ่งสัดส่วนการใช้งานภายในบ้านได้อย่างเป็นระเบียบ ตั้งแต่เฉลียงหน้าบ้าน บริเวณรับแขก ห้องอาหาร ห้องครัว โซนซักล้าง รวมไปถึงพื้นที่ทางเดินรอบบ้าน โดยมีขนาดพื้นที่ใช้สอยให้เลือกตั้งแต่ 266-370 ตร.ม. มีราคาประเมินก่อสร้างอยู่ที่ระหว่าง 6.27-10.35 ล้านบาท
โดยเป็นแบบบ้านสองชั้น 5 ห้องนอนขึ้นไปจนถึงขนาด 6 ห้องนอน มีการแบ่งสัดส่วนห้องน้ำตั้งแต่ 3-7 ห้อง อีกทั้งยังมีการแบ่งพื้นที่สำหรับห้องแม่บ้าน และสามารถจอดรถได้สูงสุดถึง 3 คัน ถือเป็นหนึ่งแบบบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยเหมาะสมสำหรับครอบครัวขนาดกลางจำนวน 3-4 คน สามารถอยู่อาศัยได้อย่างสะดวกสบาย
ดูแบบบ้าน THE GRACE Series เพิ่มเติม คลิก
3. THE BLISS SERIES
แบบบ้านสองชั้น 4 ห้องนอน ที่มอบความโมเดิร์นหรูหราบนที่ดินขนาดจำกัด สามารถก่อสร้างได้บนที่ดินขนาด 52 ตร.ว. ขึ้นไป แบบบ้านมาพร้อมดีไซน์ร่วมสมัย สามารถแบ่งพื้นที่ใช้สอยเป็นสัดส่วน แบ่งห้องนั่งเล่น ห้องอาหาร ห้องรับแขก ห้องครัว และห้องนอนออกจากกัน โดยมีขนาดพื้นที่ใช้สอยให้เลือกตั้งแต่ 216-249 ตร.ม. มีราคาประเมินก่อสร้างอยู่ที่ระหว่าง 5.04-6.95 ล้านบาท
แบบบ้าน 2 ชั้นใน THE BLISS Series มีการแบ่งจำนวนห้องออกเป็น 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และพื้นที่จอดรถราว 1-2 คัน สามารถอยู่อาศัยได้อย่างเป็นเงียบสงบ ทั้งมีความเป็นส่วนตัวสูง แม้พื้นที่ใช้สอยจำกัด
ดูแบบบ้าน THE BLISS Series เพิ่มเติม คลิก
นอกจากแบบบ้าน 2 ชั้นสไตล์โมเดิร์นที่หลากหลายแล้ว SC GRAND ยังได้รับมาตรฐานการสร้างแบบบ้าน Detailed Design ซึ่งใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่นำเทคโนโลยี Intelligent Home เข้ามาใช้งาน โดยแบ่งเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ระบบ Smart Device, Smart Home Network และ Intelligent Control System ยกระดับการใช้ชีวิตให้สะดวกและหรูหรามากขึ้นไปอีกระดับ
แบบบ้าน 2 ชั้น 3 ห้องนอน
การเลือกแบบบ้านมีความสำคัญมากกว่าแค่ลักษณะของบ้านที่ต้องการ แต่ยังช่วยให้เจ้าของบ้านคาดการณ์ระยะเวลาและงบประมาณในการก่อสร้างได้ อีกทั้งแบบบ้านยังเป็นกุญแจสำคัญที่ใช้ในการตรวจสอบความถูกต้องและมาตรฐานความปลอดภัยของการสร้างบ้านด้วย
อย่างที่ทราบกันดี ลักษณะของแบบบ้านนั้นแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับการออกแบบ และความต้องการของเจ้าของบ้าน โดยในบทความนี้ SC GRAND จะพาไปดูตัวอย่าง แบบบ้าน 2 ชั้น 3 ห้องนอน หลากสไตล์ ตอบโจทย์ความชื่นชอบของผู้อยู่อาศัยที่แตกต่างกัน
ปัจจุบันแบบบ้านสองชั้นสำเร็จรูปสามารถพบเห็นได้ทั่วไปผ่านอินเทอร์เน็ต ยกตัวอย่างดังนี้
1. แบบบ้าน 2 ชั้น 3 ห้องนอน ในพื้นที่ 184 ตารางเมตร
โดยแบบบ้านนี้มาพร้อมที่จอดรถ 2 คัน ซึ่งมีประตูเชื่อมต่อระหว่างตัวบ้านกับโรงรถ เมื่อเปิดเข้ามาก็จะเจอกับโถงทางเดินที่ประกอบไปด้วยบันไดขึ้นชั้น 2 ห้องซักรีดและห้องน้ำสำหรับแขก นอกจากนี้ โถงทางเดินยังเชื่อมกับห้อง Master Bedroom ที่มีห้องน้ำและ Walk-in Closet ในตัว และเชื่อมกับห้องรับแขกที่แบ่งโซนกับห้องครัวแบบปิด ซึ่งส่วนนี้เชื่อมกับห้องนอน 2 และห้องนอน 3 ที่มีห้องน้ำคั่นกลางระหว่างทั้ง 2 ห้อง และมีประตูเชื่อมเข้าห้องน้ำจากทั้ง 2 ห้องนอน
ในขณะที่ชั้น 2 เป็นห้องอเนกประสงค์ ให้ความรู้สึกคล้ายกับห้องใต้หลังคอที่มาพร้อมกับห้องน้ำสำหรับแขก (ไม่มีพื้นที่สำหรับอาบน้ำ) และ Walking Closet ขนาดเล็ก สามารถดัดแปลงเป็นห้องนอนแขก หรือห้องทำงานก็ได้ อีกทั้งตัวบ้านยังมีโซนระเบียงยื่นออกมาทั้งด้านหน้าและด้านหลังบ้าน
2. แบบบ้าน 2 ชั้น 3 ห้องนอน ในพื้นที่ 144 ตารางเมตร
แบบบ้านนี้จะอุทิศพื้นที่ส่วนใหญ่ของชั้น 1 ให้กับโรงจอดรถที่สามารถจอดได้ 2 คัน และห้องน้ำ 1 ห้อง ที่อยู่ติดกับห้องน้ำและบันไดสำหรับขึ้นชั้น 2 ซึ่งสามารถทำเป็นห้องนอนแขก หรือห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ โดยไม่ต้องเดินขึ้น-ลงชั้น 2 อีกทั้งในชั้น 1 จะมาพร้อมกับระเบียงที่ยื่นออกไปจากตัวบ้าน 2 ด้าน
ส่วนชั้น 2 จะประกอบไปด้วยห้องนั่งเล่น 1 ห้อง ห้องครัว 1 ห้อง ห้องนอน 2 ห้อง และห้องน้ำอีก 1 ห้อง และระเบียง 2 ด้าน ที่ยื่นออกไปเหนือระเบียงของชั้น 1 แต่ความพิเศษอยู่ที่ห้องที่ 3 ซึ่งเป็น Master Bedroom ที่มีห้องใต้หลังคาอยู่ด้านบน สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงาน หรือห้องเก็บของก็ได้เช่นกัน
3. แบบบ้าน 2 ชั้น 3 ห้องนอน ในพื้นที่ 146 ตารางเมตร
แบบบ้านนี้จะไม่มีโรงจอดรถแต่มีพื้นที่ข้างบ้านสำหรับจอดรถ 2 คัน ซึ่งมีประตูเชื่อมต่อกับห้องเก็บของ โดยชั้น 1 ประกอบไปด้วยห้องนอน 2 ห้อง ห้องนั่งเล่น 1 ห้อง และห้องน้ำ 1 ห้อง พร้อมกับบันไดเชื่อมต่อไปยังชั้น 2
ในขณะที่ชั้น 2 ประกอบไปด้วยระเบียงที่ยื่นออกมาเหนือพื้นที่สำหรับจอดรถ ห้องครัว 1 ห้อง ห้องรับประทานอาหารที่แบ่งโซนกับห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ 1 ห้อง และห้องนอน Master Bedroom ที่มี Walk-in Closet ในตัว พร้อมกับพื้นที่ระเบียง
4. แบบบ้าน 2 ชั้น 3 ห้องนอน ในพื้นที่ 214.7918 ตารางเมตร
แบบบ้านนี้ไม่มีโรงรถ แต่มีพื้นที่ด้านหลังบ้านสำหรับจอดรถ 2 คัน เมื่อเข้ามาในชั้น 1 จะเจอกับห้องนั่งเล่นที่แบ่งโซนกับห้องครัวและพื้นที่สำหรับรับประทานอาหาร ห้องซักรีด 1 ห้อง ห้องน้ำแขก (ไม่มีพื้นที่สำหรับอาบน้ำ) 1 ห้อง และห้องนอนอีก 1 ห้อง ซึ่งมีห้องน้ำและ Walking Closet ในตัว
โดยชั้น 2 ประกอบไปด้วยห้องนอน 2 ห้อง ที่มี Walking Closet ในตัว ห้องอเนกประสงค์ 1 ห้อง ห้องน้ำ 1 ห้อง พื้นที่ระเบียงและห้องใต้หลังคา
5. แบบบ้าน 2 ชั้น 3 ห้องนอน A Series จาก SC Grand ในพื้นที่ 278 ตารางเมตร
สำหรับแบบบ้าน 2 ชั้น 3 ห้องนอน A Series จาก SC Grand ในพื้นที่ 278 ตารางเมตร เป็นบ้านสไตล์โมเดิร์นที่มาพร้อมพื้นที่จอดรถ 2 คัน เมื่อเข้ามาในตัวบ้านจะเจอกับห้องรับแขก โถงทางเดิน และโซนสำหรับรับประทานอาหาร เชื่อมต่อกับห้องน้ำ 1 ห้อง และห้องครัว 1 ห้อง หากเปิดประตูห้องครัวออกไปจะเจอกับพื้นที่หลังบ้านสำหรับซักล้าง
โดยชั้น 2 ประกอบไปด้วยห้องนอน 2 ห้อง ห้องน้ำ 1 ห้อง และห้องนอน Master Bedroom 1 ห้องที่มีห้องน้ำ Walking Closet และระเบียงในตัว
อย่างไรก็ตาม การสร้างบ้านจำเป็นที่จะต้องขออนุญาตก่อสร้างจากหน่วยงานท้องถิ่น ซึ่งต้องใช้ลายเซ็นของสถาปนิกสำหรับรับรองแปลนบ้าน และลายเซ็นของวิศวกรโยธาสำหรับรับรองการก่อสร้าง ซึ่งแบบบ้านสำเร็จรูปทั่วไปในอินเทอร์เน็ตมักไม่มีลายเซ็นของสถาปนิกแนบมาด้วย เจ้าของบ้านจะต้องว่าจ้างสถาปนิกอีกคนหนึ่งในการตรวจแบบแปลนและเซ็นรับรอง
แบบบ้าน 2 ชั้นสไตล์อื่นๆ
- แบบบ้าน 2 ชั้น สไตล์คลาสสิค
- แบบบ้าน 2 ชั้น สไตล์มินิมอล
- แบบบ้าน 2 ชั้นสไตล์นอร์ดิก
- แบบบ้าน 2 ชั้นสไตล์ลอฟท์
หากต้องการติดต่อสอบถามเกี่ยวกับการสร้างบ้าน สามารถติดต่อมาได้ทาง
Email: info@scgrand.co.th
ติดต่อสอบถามได้ทางเบอร์โทร: 02-066-6663, 065-575-1555 สำหรับช่องทางออนไลน์สามารถติดตามได้ที่: Facebook, YouTube, LINE OA
ใส่ความเห็น